Browse By

Monthly Archives: October 2025

คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ได้รับบาดเจ็บจากเกมคัดบอลโลก

คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้ากัปตันทีมชาติฝรั่งเศส กลายเป็นประเด็นใหญ่หลังได้รับบาดเจ็บซ้ำที่ข้อเท้าในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่ทีม “ตราไก่” เปิดบ้านเอาชนะอาเซอร์ไบจานไป 3-0 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับทั้งสโมสรต้นสังกัดอย่างเรอัล มาดริด และทีมชาติฝรั่งเศสเอง เนื่องจากเอ็มบั๊ปเป้เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บบริเวณเดิมได้ไม่นานก่อนจะต้องกลับไปพักรักษาอีกครั้ง ทำให้แฟนบอลทั่วโลกต่างรอลุ้นผลการตรวจอย่างใกล้ชิดว่าดาวยิงตัวเก่งรายนี้จะต้องพักนานเพียงใด จังหวะที่เกิดขึ้นในเกมดังกล่าวเกิดขึ้นในนาทีที่ 61 ของการแข่งขัน เมื่อเอ็มบั๊ปเป้พยายามเร่งสปีดเพื่อหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ถูกแนวรับของอาเซอร์ไบจานเข้าสกัดจากด้านหลัง แม้เจ้าตัวจะพยายามลุกขึ้นมาเล่นต่อ แต่สุดท้ายก็ต้องส่งสัญญาณขอเปลี่ยนตัวออกจากสนามทันทีด้วยอาการเจ็บชัดเจนบริเวณข้อเท้าขวา ภาพที่เอ็มบั๊ปเป้นั่งลงบนพื้นสนามและจับข้อเท้าด้วยสีหน้าเจ็บปวดทำให้แฟนบอลทั้งสนามเงียบกริบ โดยเฉพาะดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ เฮดโค้ชทีมชาติฝรั่งเศส ที่ถึงกับต้องออกมาดูอาการด้วยตัวเอง หลังจบเกม เดส์ช็องส์เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า “เรายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาการของเอ็มบั๊ปเป้รุนแรงแค่ไหน ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดจากทีมแพทย์ก่อน แต่แน่นอนว่ามันน่ากังวล เพราะเป็นบริเวณเดิมที่เขาเคยเจ็บมาแล้ว” เขายอมรับว่าการเสียกองหน้าคนสำคัญในช่วงคัดบอลโลกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ทีมจะต้องจัดการสถานการณ์อย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บซ้ำอีกในระยะยาว เอ็มบั๊ปเป้เป็นนักเตะที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในทีมชาติฝรั่งเศสในยุคปัจจุบัน ทั้งในฐานะกัปตันทีมและผู้นำในแนวรุก เขาคือศูนย์กลางของระบบการเล่นที่เดส์ช็องส์วางไว้ โดยเกมรุกส่วนใหญ่ของทีมมักเริ่มจากความเร็วและการเคลื่อนไหวของเขา การที่เอ็มบั๊ปเป้ต้องออกจากสนามกลางคันจึงไม่เพียงส่งผลต่อผลการแข่งขันในเกมนี้เท่านั้น แต่ยังอาจกระทบต่อการวางแผนของทีมในเกมต่อไปของรอบคัดเลือกด้วย สิ่งที่ทำให้สถานการณ์นี้น่ากังวลมากยิ่งขึ้นคือเอ็มบั๊ปเป้เพิ่งมีปัญหาบาดเจ็บข้อเท้ามาจากเกมลีกกับเรอัล มาดริด เมื่อสองสัปดาห์ก่อน

มาร์ตีเนซยกย่อง’ โรนัลโด้ ‘สุดกระหายแม้ค้าแข้งมานาน

โรเบร์โต้ มาร์ตีเนซ ผู้จัดการทีมชาติโปรตุเกส ออกมากล่าวชื่นชมความมุ่งมั่นและแรงกระหายในการเล่นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมจอมเก๋า ที่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพระดับสูงแม้อายุจะล่วงเลยเข้าสู่ช่วงปลายของอาชีพค้าแข้งแล้ว มาร์ตีเนซยืนยันว่า โรนัลโด้ยังคงมีความกระหายเหมือนนักเตะวัยหนุ่ม และเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมให้กับนักเตะรุ่นใหม่ในทีมชาติ โดยเฉพาะในแง่ของการรักษาระเบียบวินัยและแรงจูงใจในการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เกมล่าสุดของทีมชาติโปรตุเกสในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่เพิ่งจบลงไป โรนัลโด้ยังคงทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เขาเป็นคนยิงสองประตูช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะเหนือคู่แข่งไปอย่างสบาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ว่าอายุที่มากขึ้นอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในสนาม แต่ดาวเตะวัย 39 ปีก็พิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเลขเหล่านั้นไม่มีความหมาย เมื่อเทียบกับความทุ่มเทและสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา มาร์ตีเนซให้สัมภาษณ์หลังจบเกมด้วยน้ำเสียงชื่นชมว่า “สิ่งที่ทำให้โรนัลโด้แตกต่างจากนักเตะทั่วไปไม่ใช่แค่ความสามารถหรือจำนวนประตูที่เขาทำได้ แต่คือความกระหายที่ไม่มีวันหมด เขายังคงซ้อมอย่างหนักเหมือนวันแรกที่เริ่มเล่นฟุตบอล และยังมีแรงจูงใจที่จะช่วยทีมคว้าชัยชนะในทุกเกม ความมุ่งมั่นของเขาน่าทึ่งจริงๆ” คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเคารพที่มาร์ตีเนซมีต่อซูเปอร์สตาร์รายนี้ ซึ่งแม้จะผ่านประสบการณ์มากมายทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ แต่ก็ยังคงมีความกระหายในการเล่นเหมือนเดิม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นสัญลักษณ์ของฟุตบอลโปรตุเกสตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา เขาผ่านการคว้าแชมป์มาแล้วแทบทุกอย่าง ทั้งในระดับสโมสรกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส และปัจจุบันกับอัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุดีอาระเบีย รวมถึงในระดับทีมชาติที่พาโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโร 2016

แฟร์นานเดส โฟกัสกับการทำผลงานในสนามมากกว่า

ดาเนียล ฮอยเออร์ แฟร์นานเดส ผู้รักษาประตูจอมหนึบของสโมสรฮัมบูร์ก ทีมดังในศึกบุนเดสลีกา 2 ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้เขาขอมุ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการทำผลงานในสนาม มากกว่าการพูดถึงอนาคตของตัวเองในแง่ของการย้ายทีม หรือการต่อสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด นายด่านวัย 31 ปีรายนี้กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดีที่สุดในชีวิตการค้าแข้ง และกลายเป็นหัวใจสำคัญของทีม “สิงห์เหนือ” ที่กำลังต่อสู้เพื่อโอกาสกลับคืนสู่ลีกสูงสุดของเยอรมนีอีกครั้ง หลังจากตกชั้นไปตั้งแต่ปี 2018 แฟร์นานเดสกล่าวอย่างหนักแน่นในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับสื่อเยอรมันว่า เขาไม่ต้องการให้เรื่องอนาคตมารบกวนสมาธิในการเล่น เพราะสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในเวลานี้คือการพาฮัมบูร์กกลับไปสู่จุดที่ทีมควรอยู่ นั่นคือเวทีบุนเดสลีกา “ผมไม่อยากคิดถึงเรื่องอนาคตมากเกินไป ตอนนี้ผมโฟกัสแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า นั่นคือการลงเล่นในทุกสัปดาห์เพื่อช่วยทีมเก็บชัยชนะ ทุกอย่างอื่นๆ จะเกิดขึ้นตามมาเองหากเราทำผลงานได้ดี” ผู้รักษาประตูทีมชาติโปรตุเกสเชื้อสายเยอรมันกล่าว สำหรับฮัมบูร์ก การมีดาเนียล ฮอยเออร์ แฟร์นานเดส อยู่เฝ้าเสาคือหนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญที่สุดของทีมตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา แม้จะยังไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ แต่ผลงานของเขาในแต่ละฤดูกาลก็โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเซฟลูกยาก การสั่งการแนวรับ และการเล่นบอลด้วยเท้าที่แม่นยำซึ่งช่วยให้ทีมสามารถเริ่มต้นเกมรุกจากแดนหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาถือเป็นผู้รักษาประตูที่มีคุณสมบัติครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งของลีกในปัจจุบัน ชื่อของแฟร์นานเดสถูกพูดถึงมากขึ้นในวงการฟุตบอลเยอรมัน หลังจากเขาเก็บคลีนชีตได้มากกว่า 15 นัดในฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีอัตราการเซฟสูงที่สุดในลีก การเล่นที่มั่นใจและการตัดสินใจที่เฉียบขาดของเขาทำให้หลายทีมในบุนเดสลีกาเริ่มจับตามอง โดยเฉพาะทีมระดับกลางตารางที่ต้องการนายประตูที่มีประสบการณ์และความมั่นคง

ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ เฮดโค้ช ทีมชาติฝรั่งเศส ชื่นชม ฟลอรีย็อง โตแว็ง

ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ ผู้จัดการ ทีมชาติฝรั่งเศส ออกมากล่าวชื่นชมผลงานของ ฟลอรีย็อง โตแว็ง ปีกจอมเทคนิคจากอูดิเนเซ่ หลังนักเตะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมอุ่นเครื่องล่าสุดที่ทีม “ตราไก่” เอาชนะคู่แข่งไปได้อย่างสวยงาม เดส์ช็องส์ยืนยันว่า โตแว็งยังคงเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพและสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้เสมอ แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาจะต้องเผชิญกับเส้นทางอาชีพที่ไม่ง่ายนัก ทั้งการย้ายสโมสร การเจ็บป่วย และการปรับตัวกับลีกต่างประเทศ แต่ความมุ่งมั่นและทัศนคติของเขาก็ทำให้เจ้าตัวกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งอย่างน่าประทับใจ ฟลอรีย็อง โตแว็ง ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลฝรั่งเศสรู้จักกันดีในฐานะดาวรุ่งพรสวรรค์สูงจากยุคเดียวกับอ็องตวน กรีซมันน์ และปอล ป็อกบา เขาเคยถูกคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมชาติในระยะยาว หลังจากโชว์ฟอร์มโดดเด่นกับโอลิมปิก มาร์กเซย ในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ด้วยสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว มีเทคนิคเฉียบขาด และความสามารถในการยิงไกลที่แม่นยำ อย่างไรก็ตาม เส้นทางของโตแว็งไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หลายคนคิด การย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกกับนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อหลายปีก่อน กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ทำให้เขาต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ในบ้านเกิด การกลับมาของโตแว็งที่มาร์กเซยคือจุดเปลี่ยนสำคัญ เขาใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองและค่อยๆ กลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดอีกครั้ง จนได้รับโอกาสติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ในปี 2017

ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ยกย่องเกมรับของทีมทำผลงานได้แข็งแกร่ง

ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ผู้จัดการทีมชาติ เยอรมนี ออกมากล่าวชื่นชมผลงานของลูกทีมหลังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเปิดบ้านถล่ม ลักเซมเบิร์ก 4-0 ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม A เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะเกมรับที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความเป็นหนึ่งเดียวของนักเตะทุกคน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เจ้าตัวให้ความสำคัญมาโดยตลอดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเฮดโค้ช “อินทรีเหล็ก” การเก็บคลีนชีตในเกมนี้ทำให้ทีมขยับเข้าใกล้การผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปอีกก้าว พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์ของทีมเยอรมันที่เริ่มกลับมามีระบบและความมั่นคงอีกครั้งหลังผ่านช่วงเวลายากลำบากในช่วงสองปีที่ผ่านมา ก่อนเกมนี้ เยอรมนีถูกคาดหวังอย่างสูงว่าจะต้องเก็บสามแต้มให้ได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด เนื่องจากอยู่ในกลุ่มที่มีทีมรองบ่อนหลายทีม และนี่เป็นเกมที่แฟนบอลทั่วประเทศรอคอยจะเห็นฟอร์มการเล่นที่สอดคล้องกับชื่อเสียงของทีมแชมป์โลก 4 สมัยอีกครั้ง ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งต่อจากฮันซี่ ฟลิค ได้เน้นย้ำตั้งแต่วันแรกว่าต้องการสร้างทีมที่มีความสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับ เขาปรับระบบการเล่นจาก 3-4-3 เป็น 4-2-3-1 เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการครองบอลและควบคุมพื้นที่ ซึ่งการเผชิญหน้ากับลักเซมเบิร์กถือเป็นบททดสอบสำคัญของระบบใหม่นี้ เกมในค่ำคืนนั้น เยอรมันโชว์ฟอร์มเหนือกว่าตั้งแต่นาทีแรก การประสานงานของแนวรุกที่มีจามาล มูเซียล่า, ลีรอย ซาเน่ และฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ทำให้แนวรับของลักเซมเบิร์กต้องทำงานหนักตลอดทั้งเกม แต่สิ่งที่นาเกลส์มันน์พึงพอใจมากที่สุดกลับไม่ใช่จำนวนประตูที่ทีมทำได้ แต่คือวิธีที่ลูกทีมของเขาป้องกันเกมสวนกลับของคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มานูเอล นอยเออร์ มีโอกาสขยายสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค

มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูระดับตำนานของ บาเยิร์น มิวนิค วัย 39 ปี กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลเยอรมันอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าทางสโมสรเตรียมพิจารณาเสนอการต่อสัญญาฉบับใหม่ให้กับเขาออกไปอย่างน้อยอีกหนึ่งฤดูกาล ท่ามกลางคำถามจากหลายฝ่ายว่า นายทวารจอมเก๋ารายนี้จะสามารถยืนหยัดอยู่ในระดับสูงต่อไปได้อีกนานเพียงใด แม้อายุจะใกล้หลักสี่เต็มที แต่ฟอร์มการเล่นล่าสุดของเขายังคงยอดเยี่ยมเกินวัย และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บาเยิร์นยังคงเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างเต็มเปี่ยม นอยเออร์ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมัน เขาเข้ามาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2011 หลังย้ายจากชาลเก้ 04 และนับแต่นั้นมาก็กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมในทุกยุคทุกสมัย การป้องกันประตูอันเหนียวแน่น การออกบอลด้วยเท้าที่แม่นยำ และสไตล์การเล่นที่กล้าเสี่ยงทำให้เขากลายเป็นต้นแบบของ “สweeper keeper” หรือผู้รักษาประตูสมัยใหม่ที่มีบทบาทเกินกว่าการยืนเฝ้าเส้น เขาพาบาเยิร์นกวาดแชมป์อย่างนับไม่ถ้วน ทั้งบุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และยังคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติเยอรมันในปี 2014 อีกด้วย แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป หลายคนเริ่มสงสัยว่านอยเออร์จะสามารถรักษาระดับฟอร์มได้อีกนานแค่ไหน โดยเฉพาะหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บหนักที่ขาในปี 2022 จากอุบัติเหตุขณะเล่นสกี ทำให้ต้องพักรักษาตัวนานกว่าครึ่งปีและพลาดการลงเล่นให้กับทีมในช่วงสำคัญของฤดูกาลนั้น ทว่าการกลับมาของเขาหลังจากนั้นกลับน่าทึ่งอย่างยิ่ง